นีโอดิเมียม (อังกฤษ: Neodymium) เป็นธาตุโลหะลักษณะเงินมันวาวหายาก เมื่อสัมผัสอากาศสีจะหมองเพราะเกิดสนิมสารประกอบออกไซด์ หมายเลขอะตอมคือ 60 สัญลักษณ์ Nd จัดอยู่ในกลุ่มแลนทาไนด์ มีปริมาณบนพื้นโลกมากเป็นอันดับ2 ในกลุ่มเดียวกันรองจากซีเรียม นีโอดีเมียมเป็นธาตุที่ไม่ได้พบในรูปแบบโลหะหรือบริสุทธิ์เหมือนกับธาตุอื่นๆในกลุ่มแลนทาไนด์ และนีโอดีเมียมยังใช้การกลั่นปกติสำหรับการใช้งานทั่วไป แม้ว่านีโอดิเมียมถูกจัดว่าเป็น "โลกที่หายาก" มีการกระจายกันอย่างแพร่หลายในโลกอยู่ในชั้นเปลือกโลก ส่วนใหญ่นีโอดิเมียมในโลกจะขุดได้ที่ในประเทศจีน
นีโอดิเมียมเป็นธาตุที่อยู่ในบล็อกF จำนวนอิเล็กตรอนในแต่ละชั้นนีโอดีเมียม คือ 2, 8, 18, 22, 8, 2 และการกำหนดค่าอิเล็กตรอนของมันคือ [Xe]4f46s2 นีโอไดเมียเป็นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของธาตุหายากหลังจากซีเรียมและแลนทานัม
นีโอดีเมียมถูกค้นพบโดย Carl Auer von Welsbach เป็นนักเคมีชาวออสเตรียในเมืองVienna ในปี 1885 เขาแยกนีโอดิเมียมเช่นเดียวกับองค์ประกอบธาตุเพรซีโอดิเมียม
แม่เหล็กนีโอดีเมียม (ที่จริงเป็นส่วนผสม, Nd2Fe14B)) เป็นแม่เหล็กถาวรที่แข็งแกร่ง แม่เหล็ก ที่รู้จักกัน แม่เหล็กนีโอดีเมียมแค่ไม่กี่กรัมสามารถยกน้ำหนักพันเท่าน้ำหนักของมันเองได้ แม่เหล็กนีโอดีเมียมมีราคาถูกกว่า เบาและแข็งแรงกว่า แม่เหล็กซาแมเรียมโคบอลต์ แต่แม่เหล็กนีโอดีเมียมไม่ได้เหนือกว่าในทุกด้าน แม่เหล็กนีโอดีเมียมก็มีการสูญเสียอำนาจแม่เหล็กของพวกมันเองได้ที่อุณหภูมิสูงและอาจที่จะเกิดสนิม ในขณะที่แม่เหล็กซาแมเรียมโคบอลต์ไม่สามารถเกิดได้
นีโอดิเมียมบริสุทธิ์มีสีเงิน เมื่อถูกออกซิไดซ์จะได้นีโอดิเมียมออกไซด์ สีฟ้า แต่เมื่อผสมกับกระจกจะได้สีแดงม่วง จึงนิยมใช้ทำกระจกสี และยังใช้นีโอดิเมียมเป็นส่วนผสมใน YAG เลเซอร์อีกด้วย
CeO2 ที่เป็นออกไซด์ผสมที่มี CeO2 มากกว่าร้อยละ 40 ขึ้นไปปใช้เป็นส่วนผสมในผงขัดแก้วที่มีประสิทธิภาพดี Nd2O2 และ Pr2O3 ใช้ในการผสมทำแก้วสี และทำแผ่นกรองแสง La2O3 ใช้ทำแก้วเชิงแสง (optical glass) ที่มีสมบัติพิเศษ คือ กระแสงได้น้อยแต่หักแหแสงได้ดีมาก CeO2 ผสมในแก้วช่วยเพิ่มเสถียรภาพและช่วยลดความบกพร่องของสีในแก้วเมื่อถูกรังสีแกมมาหรือลำอิเล็กตรอน CeO2 และ Nd2O3 ใช้แก้วสีเขียวในเนื้อแก้วอันเนื่องมาจาก Fe2+ ในแก้วของผสม Pr2O3 ร้อยละ3 กับ ZrO2 ใช้ทำน้ำยาเคลือบสีเหลืองสำหรับเซรามิก และ CeO2 สำหรับน้ำยาเคลือบแบบทึบแสง สารประกอบของแลนทาไนด์กับออกไซด์(oxides) ซัลไฟด์(sulfides) บอไรด์(borides) คาร์ไบด์(carbides) และไนไตรด์(nitrides) ส่วนใหญ่จะมีจุดหลอมเหลวสูงมักใช้เป็นสารทนความร้อน(แต่อาจมีบางชนิดที่ไม่เหมาะในการใช้งานเนื่องจากเกิดปฏิกิริยาได้ง่ายที่อุณหภูมิสูง)
โลหะนีโอดีเมียมจะหมองช้าในอากาศและมีการเผาไหม้ได้อย่างง่ายดายที่อุณหภูมิประมาณ 150 ? C จะได้เป็น นีโอดิเมียม (III) ออกไซด์ :
นีโอดีเมียม มีประจุไฟฟ้าบวกมากและมันตอบสนองช้าด้วยน้ำเย็น แต่ค่อนข้างตอบสนองได้อย่างรวดเร็วด้วยน้ำร้อน จได้เป็น นีโอดิเมียม (III) ไฮดรอกไซ :
นีโอดีเมียมเมื่อเกิดการเผาไหม้หรือระเบิดจะมีความเป็นพิษต่ำถึงปานกลาง ฝุ่นหรือพิษของมันก็ยังไม่ได้รับการตรวจอย่างละเอียด ฝุ่นนีโอดีเมียมเมื่อเข้าตาจะเกิดการระคายเคืองต่อตามาก เมื่อโดนผิวหนังจะระคายเคืองไม่มาก เมื่อสูดดมหายใจเข้าไปในปอดสะสมมากๆ จะเกิดการอุดตันของหลอดเลือดทำให้เกิดความเสียหายต่อตับ นีโอดีเมียมยังทำหน้าที่เป็นสารกันเลือดแข็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับทางเส้นเลือด แม่เหล็กนีโอดีเมียมมีความดึงดูดหากันที่สูงแรงมาก ระวังอย่าเอานิ้วมือไปอยู่ระหว่างแม่เหล็กมันอาจจะทำให้แม่เหล็กหนีบนิ้วมือได้รับการบาดเจ็บได้หรือถึงกับกระดูกแตก